Sunday 13 September 2015

[เรื่องสั้น] 'วันฝนตก' :: ร่มสีดำกับดินสอไม้

ร่มสีดำกับดินสอไม้

1

              วันนี้ฝนตก...
เครื่องปรับอากาศในร้านเหมือนจะได้โอกาสอู้งาน เพราะขณะนี้อุณหภูมิในร้านกาแฟเล็กๆ ดูจะอบอุ่นขึ้นทันตาเมื่อเทียบกับภายนอกที่เฉอะแฉะ หยดน้ำบนกระจกใสทำใหมองเห็นภาพภายนอกได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ในรายละเอียดที่เลือนลางก็ทำให้ได้เห็นสีสันต่างๆ ในมุมกว้าง
ชายหนุ่มวางดินสอในมือลงแล้วมองออกไปอย่างตั้งใจ ทะเลแห่งสีสันซึ่งประกอบขึ้นจากร่มกันฝนจำนวนมากของมนุษย์เงินเดือนในเวลาเลิกงานขยับไหลไปตามทางเหมือนคลื่นที่มีชีวิต

มาแล้ว...
จุดสีดำท่ามกลางความสดใสกลับกลายเป็นความโดดเด่นที่เขาไม่อาจละสายตา
เจ้าของร่มสีดำคันนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือรูปร่างหน้าตาจะเป็นเช่นไรเขาเองก็ได้แต่เดาสุ่มไปเรื่อย หากเป็นผู้หญิงก็อาจจะเป็นสาวใหญ่ใจมั่น ที่รักงานยิ่งกว่าการดูแลตัวเอง คงเป็นคนเก่งที่น่าหลงใหลไม่น้อย
แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจะน่าเบื่อไปหน่อย แต่ก็เหมาะกับพวกนักบริหารที่กลีบเสื้อสูทเรียบกริบประหนึ่งหลุดออกมาจากตู้โชว์

เขาหลุดขำกับตัวเองก่อนจะโบกมือล่ให้คุณร่มสีดำในใจ
ไว้เจอกันใหม่ในวันที่ฝนตกนะครับ


2

วันนี้ฝนตก...
พื้นถนนปุปะกลายเป็นสระขนาดย่อมในทันทีเมื่อท่อระบายน้ำอิดออดอู้งานไม่ยอมปล่อยให้น้ำฝนไหลลงไป
ชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากหาว อากาศเย็นๆ ชวนให้ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ อย่างมาก หากไม่ติดว่ามีกองงานมหาศาลรอให้เขากลับไปสะสาง
ความง่วงงุนบังคับให้รองเท้าชื้อแฉะเปลี่ยนทิศทางการเดินขึ้นสู่ร้านกาแฟเล็กๆ บนชั้นสองของร้านขายดอกไม้ริมถนน

อเมริกาโน่ร้อนแก้วใหญ่

เมนูประจำถกสั่งไปตามความเคยชิน แล้วก็เบี่ยงตัวไปยืนรอด้านข้างเหมือนทุกๆ ครั้ง สายตาของเขากวาดไปรอบๆ เหมือนไม่มีจุดหมาย แต่แล้วก็หยุดลงตรงที่ข้างหน้าต่าง
ข้อนิ้วขาวซีดหมุนดินสอไม้ไปมา ในขณะที่เจ้าตัวยังคงเหม่อลอยออกไปยังทิวทัศน์มัวๆ ด้านนอก...ยุคนี้ก็ยังจะมีคนใช้ดินสอไม้แบบนี้อยู่อีก
เขายิ้มกับตัวเอง...คงจะเป็นคนโบราณแบบที่ไม่เล่นแม้กระทั่งอินเตอร์เน็ตด้วยเลยล่ะมั้ง

อเมริกาโน่ร้อนแก้วใหญ่ได้แล้วครับ

ดินสอไม้แท่งนั้นสั้นลงทุกที มาซื้อกาแฟคราวหน้าคงจะเปลี่ยนเป็นแท่งใหม่แล้ว
ไว้จะแวะมาดูแท่งใหม่นะ...คุณดินสอไม้


3

ขอโทษนะครับ

ชายหนุ่มเงยหน้าตามเสียงนั้น ก่อนจะเจอพนักงานใหม่ที่เขาไม่คุ้นหน้าตายืนคอตกด้วยสีหน้าลำบากใจ

ขอให้ลูกค้าท่านอื่นร่วมโต๊ะสักครู่ได้ไหมครับ

หัวคิ้วขยับเข้าหากันทันที ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ สายฝนด้านนอกเสกให้ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้แน่นขนัดในพริบตา เก้าอี้ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็เห็นจะมีแต่ที่อยู่ตรงข้ามเขานี่เอง
สุดท้ายถึงแม้จะไม่ชอบให้ใครเข้ามาในพื้นที่เล็กๆ ของตัวเอง แต่ความผิดชอบชั่วดีก็ทำให้ไม่อาจปฏิเสธได้อยู่ดี ชายหนุ่มจึงพยักหน้าออกไปแกนๆ ให้ฝ่ายพนักงานทำหน้าโล่งใจ
ดวงตาผ่านเลนส์แว่นขยับตามไปเพื่อสังเกตคนที่จะมาร่วมโต๊ะ ผู้ชายคนนั้นตัวสูงใส่เสื้อเชิ้ตพับแขนถึงข้อศอกกับกางเกงสแล็คสีดำ ผมตัดสั้นเรียบร้อยเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป

ในมือนั้นถือแก้วมัคขนาดใหญ่ที่มีควันฉุย...กับร่มสีดำ


4

ขอโทษด้วยนะครับ!!”

ชายหนุ่มโคลงหัวอย่างไม่ชอบใจนัก แต่เขาก็มีส่วนผิดเองอยู่จึงยอมรับแก้วมัคขนาดใหญ่มาถือไว้ขณะที่พนักงานคนใหม่ของร้านวิ่งไปหาที่นั่งให้
ด้วยความที่เป็นลูกประจำของร้านนี้จนทุกคนจำได้แล้วว่าอเมริกาโน่ร้อนของเขาหมายรวมถึงแก้วกระดาษกลับบ้านจึงลืมกำชับแก่พนักงานคนใหม่ไปเสียสนิท
อันที่จริงก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไรนัก...แต่เขาเป็นคนหน้าดุ พอขมวดคิ้วใส่ไปที พนักงานคนนั้นก็ถึงกับหน้าเสียทำอะไรไม่ถูกเข้าไปกันใหญ่

ยืนรออยู่แค่อึดใจก็ได้ความว่ามีโต๊ะแล้วแต่ต้องนั่งร่วมกับคนอื่น เขาจงพยักหน้าส่งๆ ไป อย่างไรก็แค่จิบกาแฟแกวนี้ให้หมด จะได้กลับไปลุยงานเสียที
แต่พอเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบกับดวงตาโตหลังกรอบแว่นสีดำที่มองอยู่ก่อนแล้ว

ข้อนิ้วเล็กชะงักในทันที...ดินสอไม้จึงกลิ้งหลุดจากมือ


5

ดินสอไม้ที่ตกพื้นถูกยื่นคืนให้ก่อนจะวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ ชายหนุ่มเจ้าของโต๊ะพึมพำขอบคุณพร้อมกับแอบสูดกลิ่นหอมของกาแฟเข้มข้น เขาชอบกลิ่นกาแฟ...จึงชอบมานั่งร้านกาแฟ
ไส้สีดำหักทู่เพราะแรงกระแทกทำให้เขาต้องเหลามันใหม่ หลังจากง่วนอยู่กับการเหลาไส้ให้ได้ความแหลมที่พอใจจนเรียบร้อย เมื่อเงยหน้ามาอีกทีก็เจอสายตาดุที่มองอยู่ก่อน

เกือบจะสะดุ้ง...ถ้าไม่ได้สังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้ มอง

อาการทอดสายตาแบบนั้นแม้จะขมวดคิ้วแน่นเหมือนจ้อง แต่จริงๆ คงจะ เหม่อ เสียมากกว่า...คนอะไร ขนาดเหม่อลอยจิบกาแฟยังทำหน้าเครียดไปอีก
แต่พอเขาจ้องกลับไปสักพักก็เหมือนจะรู้ตัว ดวงตาดุกะพริบสองสามครั้ง ก่อนจะที่รอยยิ้มแห้งๆ จะถูกส่งมาให้

ผมรบกวนหรือเปล่า ถามอย่างเกรงใจ หมดแก้วนี้ผมก็ลุกแล้ว
ไม่หรอกครับ...กาแฟของคุณหอมดี
งั้นหรือครับ
คุณไม่ชอบกาแฟ?”
...ไม่ได้ไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้ชอบ คนตรงหน้ายกซด ก่อนจะหัวเราะแหะ ผมแค่กินให้ตัวเองตื่น

เขายิ้มให้กับคำตอบนั้น คนคนนี้เป็นตรงๆ ทื่อๆ ไม่มีการปรุงแต่ง กินกาแฟให้ตื่น ไม่ได้ติดกับไปรสชาติหอมหวน
เหมือนร่มสีดำ...ที่แค่กันฝนได้ จะเป็นสีอะไรก็ย่อมไม่ต่างกัน


6

ผมชอบกลิ่นกาแฟ...แต่กินนิดเดียวก็ใจสั่น

ริมฝีปากแดงบนใบหน้าที่ขาวจนซีดไม่ต่างจากข้อนิ้วเล็กๆ พวกนั้นยกยิ้มให้เล็กน้อย ชายหนุ่มจึงเหลือบมองแก้วมัคอีกแก้วที่มีคราบสีน้ำตาลเปื้อนอยู่...นั่นคงจะเป็นโกโก้ร้อน

พวกที่มีกาแฟน้อยๆ อย่างมอคค่าก็กินไม่ได้เลยหรือครับ
ไม่เลย... ตอบพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ บางทีถึงกับท้องเสียเลยด้วย
ลำบากแย่เลยนะครับ บอกไปแบบนั้นเพราะเขานึกสภาพชีวิตที่ไม่อาจพึ่งพิงคาเฟอีนได้ไม่ออก แต่คนฟังกลับคิดไปคนละอย่าง
ผมถึงมานั่งร้านกาแฟ ถึงกินเองไม่ได้...ได้กลิ่นหอมๆ ก็ชื่นใจ

ดันได้คำตอบแบบนั้นมาแถมดวงตาหลังเลนส์แว่นยังดูจริงจังมากจนเขาเผลอยิ้มให้
คนตรงหน้าคงจะละเอียดอ่อนอย่างมาก แม้แต่เรื่องกลิ่นกาแฟยังทำให้มุ่งมั่นออกมานั่งร้านกาแฟได้แบบนี้ จะเสียเวลาเหลาดินสดไม้ให้ได้ความแหลมที่พอใจอีกสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร


7

แก้วกาแฟว่างเปล่าถูกวางลงกับโต๊ะไม้ก่อนจะใช้กระดาษทิชชู่เช็ดริมฝีปากที่ไม่เลอะหนึ่งทีแล้วยิ้มแบบที่ทำให้เผลอยิ้มตอบไปอย่างอัตโนมัติ

ขอตัวนะครับ...คนตัวสูงลุกขึ้นก่อนจะเหลือบมองสมุดที่มีตัวอักษรเล็กจิ๋วเรียงราย ขอให้งานเสร็จไวๆ นะครับ
...ขอให้ตื่นดีจนงานเสร็จเหมือนกันครับ

คนหน้าดุหัวเราะเบาๆ ก่อนจะก้มศีรษะให้เป็นเชิงบอกลาแล้วเดินลงบันไดไป
ชายหนุ่มเจ้าของโต๊ะกลั้นยิ้มอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วหมุนดินสอไม้ในมือไปมาอย่างเหม่อลอย...จนกระทั่งสายตาสะดุดเข้ากับพนักเก้าอี้

ร่มสีดำถูกลืมทิ้งไว้

เขาหันออกไปมองนอกหน้าต่างทันที ท้องฟ้ายามนี้มืดลงกว่าเดิมแต่ไม่มีสายฝนโปรยปรายแล้ว คลื่นของสีสันที่เกิดจากร่มกันฝนก็หายไปเช่นกัน
คุณร่มสีดำคงไม่จำเป็นต้องใช้ร่มแล้วในวันนี้...งั้นจะช่วยเก็บไว้ให้จนถึงวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน


8

ชายหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัวว่ามือว่างเอาก็ตอนที่ปลายเท้าแตะบันไดขั้นแรกของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่เมื่อหันกลับไปมองทางเดินแฉะๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ตัดใจฝากร่มเอาไว้ที่ร้านกาแฟสักวัน
เขาถอนหายใจให้กับอาการเหม่อลอยของตัวเอง

เอาเถอะ...ถึงจะลืมร่มไว้หรือไม่ก็ไม่ได้แตกต่างกัน
ไม่ว่าอย่างไรวันพรุ่งนี้เขาก็ตั้งใจว่าจะขอเปลี่ยนอเมริกาโน่ร้อนของเขาจากแก้วกระดาษเป็นแก้วมัคอยู่แล้ว


ฝากร่มสีดำไว้ก่อนนะครับคุณดินสอไม้