Saturday 10 October 2015

แชร์ประสบการณ์มีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า

แชร์ประสบการณ์มีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า

ตามหัวข้อเลยค่ะ

ข้อความด้านล่างนี้คือมาจากtwitter(@velvetronica)ที่เราทวิตไว้ตั้งแต่วันที่ 1/8/58 พอดีวันนั้นได้มีโอกาสไปอ่านเรื่องของคุณหนานไพ่ซานซู(นักเขียนนิยายชาวจีน)เล่าเรื่องที่ตัวเองป่วยเป็นbipolar disorder เราเลยอยากแชร์เรื่องของตัวเองเผื่อจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนที่กำลังพยายามอยู่
แล้วเมื่อวานเพิ่งส่งให้เพื่อนอ่านไป คุ้ยอยู่นานจนคุณปอยิ้มมาช่วยคุ้ย เลยคิดว่าควรจะเก็บให้เป็นที่ทางหน่อย เอามาลงบลอคจะได้หาง่าย :)




แม่เราเป็นโรคซึมเศร้า ตอนแรกก็เริ่มจากเบื่อนู่นเบื่อนี่ ไม่ยอมออกจากบ้าน เจอเรื่องอะไรก็มองโลกในแง่ร้ายไปหมด ตอนนั้นก็ทะเลาะกับคนในบ้านตลอด

เราเป็นคนที่อยู่หอ แล้วก็สนิทกับแม่มากกว่าพ่อ นานๆกลับบ้านทีเราก็จะเข้าข้างแม่ โอ๋แม่ตลอดๆ แบบม๊าไม่ผิดนะ คนอื่นไม่เข้าใจ แบบไบแอสสุด

พอนานๆเข้า ก็เริ่มทะเลาะกับคนที่บ้านหนักขึ้น บวกกับตอนนั้นที่บ้านมีปัญหาอยู่แล้ว สภาพในบ้านก็ตึงเปรี๊ยะ แล้วตอนนั้นแม่ก็โทรมาร้องไห้ใส่บ่อยๆ

เราไม่เคยคิดว่าแม่เป็นโรคซึมเศร้าเลย (ทั้งที่เรียนมาแล้วนะ) ตอนนั้นคือไม่เข้าใจว่าไม่เข้าใจพ่อกับพี่สาวว่าทำไมดูแลแม่ไม่ดี //โทษเขาไปอีก แย่

เรื่องก็แย่ลงๆๆ ทุกคนก็เริ่มไม่ฟังแม่ มีแต่เราที่exposedแม่น้อยสุดเพราะอยู่หอเป็นคนฟัง ...แล้วตอนนั้นก็มีประเด็นขึ้นมาว่าคนใกล้ตัวเป็นไบโพลา

เราถึงเอะใจแล้วกลับมาย้อนคิดว่าแม่ป่วยรึเปล่า ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจถามแม่ไปว่า แม่อยากไปหาหมอมั้ย ถ้ามันรู้สึกไม่โอเค แค่ลองไปคุยดูก็ได้

ซึ่งแน่นอน...ปฏิเสธจ้ะ แม่ก็บอกขอไปคิดดูก่อน แล้วก็เงียบหายไป จนมีอยู่วันนึงที่เรากลับบ้าน แล้วแม่ขับรถมาส่งเราที่หอ จู่ๆแม่ก็นั่งร้องไห้

ตอนนั้นไม่โอเคมาก เลยบอกให้แม่จอดรถแล้วก็นั่งคุยกัน บอกว่าแม่ไปหาหมอมั้ย หนูพาไปนะ //จริงๆวันนั้นกำลังจะไปอยู่เวรก็ต้องขอแลกแบบกราบเพื่อนงาม

คุยอยู่นานแม่ก็ยอมไปในที่สุด แล้วตอนที่เราพาแม่ไปถึงรพ. แม่ก็ขอว่าไม่บอกพ่อได้มั้ย เราก็ไม่รู้จะทำไง ตอนนั้นก็แอบกลัวพ่อรับไม่ได้เหมือนกัน

แต่สุดท้ายมันก็ต้องบอกแหละนะ แม่เข้าไปตรวจ แล้วเราก็โทรบอกพ่อ พ่อก็ขับรถมารพ. แล้วเราก็อธิบายเรื่องโรคซึมเศร้าให้พ่อฟังคร่าวๆ

คือลุ้นมาก คือพ่อเราก็มีความหัวโบราณอยู่ กลัวพ่อรับไม่ได้มากๆ แต่พอเราอธิบายจบ พ่อก็ถามเพิ่มเรื่องการรักษากับอะไรนิดหน่อยแล้วก็เงียบไป

เราก็เลยถามว่าพ่อรับได้มั้ย พ่อก็เงียบไปแปป แล้วก็บอก ถ้าบอกว่ามันคือโรคที่สารสื่อประสาทในสมองไม่สมดุล มันก็คือป่วย ก็รักษาไง แล้วก็ตบหัวเรา

น้ำตาร่วงเลยทีเดียว... คือโล่งใจมาก คือตอนนั้นพ่อแม่เราทะเลาะกันบ่อยมากเพราะอาการซึมเศร้านี่แหละ มันทำให้เรากลัวพ่อไม่เข้าใจมากๆ

ซึ่งหลังจากแม่ตรวจเสร็จ ก็เป็นซึมเศร้าจริงๆ ได้ยากลับมากินปริมาณนึง แล้ววันนั้นพ่อก็จูงแม่ขับรถกลับบ้าน //ส่วนเราก็ไปอยู่เวรรัวๆใช้กรรม...

สองสามอาทิตย์แรกที่เริ่มกินยา แม่โทรมาโวยวายกับเราหลายอย่างมาก ทั้งนอนไม่หลับ ง่วงนะหว่างวัน คลื่นไส้อาเจียน แถมอารมณ์ก็ยังแย่อยู่ บลาๆๆ

ซึ่งในการกินยาโรคซึมเศร้าในช่วงแรกมันจะไม่ได้ดีทันทีเลย มันจะเริ่มเห็นผลในประมาณ1-2สัปดาห์ และก็จะยังไม่หายขาดทันที ต้องกินไปเรื่อยๆ

ต้องคอยย้ำว่าให้กินไปก่อน แล้วช่วงอารมณ์ที่ซึมเศร้ามันจะค่อยๆลดลง แล้วก็ห่างขึ้นๆช้าๆ แต่ต้องกินยาสม่ำเสมอนะ

ส่วนเรื่องผลข้างเคียง มันแล้วแต่ยาที่กินและแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างของแม่เราคือง่วงมาก ง่วงตลอดเวลา จนต้องไปขอปรับยาเพราะจะหลับในตอนขับรถ

ซึ่งหลังจากปรับยาอยู่เป็นเดือนๆแม่เราก็เริ่มเข้าที่ในเดือนที่สาม แล้วก็กินต่อๆมา จนตอนนี้หายดีสบายดีแล้ว แต่ก็ยังกินยาต่อไปก่อน

จะบอกว่าไอ้โรคซึมเศร้าหรือไบโพลาหรือใดๆเนี่ย การที่เรายอมรับแล้วไปหาหมอ นอกจากมันจะดีกับตัวเองแล้ว มันยังดีกับคนรอบข้างมากๆด้วย

ตอนที่แม่แย่มากๆคือพูดไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งเราก็เครียดมากไปด้วยเพราะเราต้องอยู่หอ อยู่เวร พอแม่โทรมาร้องไห้มันก็อยากไปหาไปปลอบ แต่ทำไม่ได้

ช่วงที่แม่ยังไม่ยอมไปหาหมอ กับช่วงที่ไปหาแล้วแต่ยังปรับยาได้ไม่ดีเนี่ย ตอนนั้นคือเครียดพีคมาก นั่งร้องไห้ปรับทุกข์ใส่รูมเมทจนจะโดนไล่ไปหาอ.

แต่พอผ่านช่วงนั้นมาได้ มองย้อนกลับไปดูแล้วก็โล่งใจมากๆ รู้สึกคิดถูกมากที่พาแม่ไปหาหมอ

ทุกวันนี้เรายังเอาเรื่องนี้มาคุยเล่นกับแม่ได้เลย แม่ก็จะบอกว่า ถ้าเราไม่พาไปตอนนั้น ใครจะกล้าไปเอง ไม่รู้จะไปหาใคร ไปบอกว่าอะไร

ซึ่งคำแนะนำของเราก็คือ เดี๋ยวนี้รพ.เอกชนก็มีจิตแพทย์ค่ะ เสิร์ชดู ชอบรพ.ไหนก็ไปเลย หรือถ้าไม่กล้าไปก็โทรสายด่วยสุขภาพจิตก่อนก็ได้ค่ะ 1667

เราอยากเห็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกคนได้รับการรักษาและการตอบสนองที่ถูกต้องค่ะ อย่ากลัวที่จะพาคนที่เรารักไปหาหมอนะคะ

*เพิ่มเติม*
1667 มันจะเป็นสายให้ความรู้เรื่องโรคและภาวะต่างๆ

แต่ถ้าอยากได้คำปรึกษาแบบhotlineโทร 1323 นะคะ

อีกประเด็นที่เราเล่ามายาวยืดเนี่ย ก็เพราะจะบอกว่า เราดีใจที่เห็นคนในทีแอลรอบๆเราให้ความสำคัญและมีมุมมองที่ดีในเรื่องนี้ แต่ว่าๆ

เราเข้าใจว่ามันไม่ง่าย ที่จะไปหรือจะพาใครสักคนไปหาจิตแพทย์ ขนาดเราเองเรียนมาเองแท้ๆ กว่าจะพาแม่ตัวเองไปได้ //ตอนนั้นก็ยังเด็กกว่านี้ด้วยแหละ

ด้วยค่านิยมและอะไรหลายๆอย่าง เราเข้าใจจริงๆว่ามันไม่ง่ายสำหรับใครเลยที่จะยืดอกว่าเราหรือคนรอบตัวเราเป็นซึมเศร้าแล้วเดินไปหาหมอเอง

ตอนนั้นสำหรับเรามันก็ไม่ง่าย เรายังจำความรู้สึกที่ขอให้แม่ไปหาหมอ กับที่โทรบอกพ่อให้มาหาได้ดี ดังนั้นใครที่กำลังจะทำแบบเราอยู่ ขอให้สู้ๆนะคะ

มันอาจจะไม่สำเร็จในครั้งแรก หรือมันอาจจะไม่ราบเรียบอย่างเรื่องของเรา แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ

คนที่อยู่รอบตัวคนที่ป่วยก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน อย่าลืมที่จะหาความรู้สึกดีๆให้ตัวเองด้วย แล้วค่อยๆ ประคองเค้าผ่านไปด้วยกัน


Link twitter >>> https://twitter.com/velvetronica/status/627181564674248704


หวังว่าจะได้เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ :)