Saturday 4 July 2015

[fic]「秋天开的花朵」Blossom in Autumn 00 (15 :: จางฉี่ซาน,อู๋เหลาโก่ว)

「秋天开的花朵」
Blossom in Autumn

Fandom : Dao Mu Bi Ji (บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน)
Pairing : 15 (จางฉี่ซาน,อู๋เหลาโก่ว)
Rate : G
Timeline : หลังสงครามโลกครั้งที่สอง

***ตัวอย่างของรวมเล่มที่จะออกในงานDMBJonly event 16/8/58 จะลงสัปดาห์ละตอนไปเรื่อยๆ จนถึงวันงานนะคะ***

pre-order ได้ที่นี่ค่ะ


00



              “พี่รอง


ในบ่ายวันหนึ่งที่แสงสว่างจ้าจนแสบตา เด็กชายที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเที่ยววิ่งร้องเรียกคนที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ตรงชานบ้านไปทั่ว ชายผู้ถูกตามหาคนนั้นรูปร่างผอมสูงแต่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มือของเขากำลังจัดการกับปืนกลเก่าๆ ของตัวเองโดยไม่สนใจเสียงโวยวายด้านหลังแม้แต่น้อย


พี่รอง เมื่อพบเป้าหมายเด็กชายก็ปรี่เข้าไปใกล้ก่อนจะคลานไปเกาะหลัง พี่รอง!”

โว้ย! เรียกอยู่ได้ อะไรของเอ็งวะ!?” ดวงตาข้างที่ไม่ถูกคาดปิดเอาไว้ตวัดมาจ้องอย่างหงุดหงิดทันที สีหน้าของคนเป็นพี่นั้นพร้อมจะเงื้อฟาดน้องตัวเองได้ทุกวินาที

ขึ้นเขาไปตักทรายครั้งนี้ข้าไปด้วยได้ใช่ไหม เด็กน้อยผู้ชินชากับมือเท้าของพี่ชายแล้วยังคงส่งเสียงถามเรื่อยเจื้อยไม่เกรงกลัว


ชายตาเดียวนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมมือไปดีดหน้าผากน้องชายอย่างหมั่นไส้


ไปบอกเตี่ยเอ็งโน่น... ว่าพลางแยกเขี้ยวใส่ แล้วไอ้ปืนโทรมๆ ของเอ็งก็หัดดูแลซะบ้าง เกิดขัดลำกล้องหน้าบ๊ะจ่างขึ้นมาข้าจะขำให้ฟันหัก

ได้ๆ งั้นข้าไปบอกพ่อนะ!!”


ด้วยอารามตื่นเต้นดีใจ เรื่องปืนกลไฟนั้นก็คล้ายกับจะไม่เข้าหู เด็กหนุ่มยิ้มกว้างรับจนตาหยีก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที

ตระกูลของเขาเป็นโจรขุดสุสานมาตั้งแต่โบราณ ตั้งแต่พอรู้ความเด็กหนุ่มเองก็ติดตามพ่อและปู่ลงดินมาหลายครั้ง คราวนี้แอบได้ยินผู้ใหญ่คุยกันว่าเจอของดีแต่เสี่ยงอันตราย...ฟังได้แค่นั้นเลือดร้อนก็พลุ่งพล่านอยากตามไปด้วย แต่ถ้าปล่อยให้แม่มาถามเองจะต้องโดนห้ามแน่ๆ จึงต้องรีบมาดักคอเอาไว้ก่อนไม่ให้เสียงาน


...ไอ้สาม


เสียงทุ้มของพี่ชายเรียกเอาไว้ เด็กชายผู้กำลังตื่นเต้นจึงหันกลับมาโดยไม่ได้เอะใจในน้ำเสียงที่แปลกออกไป


ว่าไงพี่รอ...


แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจจนก้าวพลาดล้มกลิ้งไปกับพื้นไม้...แสงแดดสว่างจ้ากลับกลายเป็นสีแดงคล้ำ กลิ่นคาวชวนคลื่นเหียนคละคลุ้งไปทั่ว

ร่างของพี่ชายไม่ใช่พี่ชายอีกต่อไป...ผีดิบนั่นมีเนื้อหนังที่เหมือนถูกถลกผิวออกไป หยดเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงกว้างกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างไปทีละนิด เด็กหนุ่มผงะถดตัวถอยหลังด้วยความตกใจ แต่เพียงวูบเดียวก้อนเนื้อชุ่มก็ขยับเข้ามาใกล้จนกลิ่นเหม็นเปรี้ยวอัดแน่นเต็มจมูก

ดวงตากลวงโบ๋ข้างหนึ่ง ปูดโปนข้างหนึ่งกำลังจ้องตรงมาอย่างที่อ่านความหมายไม่ออก สิ่งที่คล้ายจะเป็นริมฝีปากขยับอยู่ใกล้จนแทบแนบชิด...


หนี...ไป





เสียงฟ้าผ่าดังลั่นที่นอกหน้าต่างปลุกให้เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่น ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เหงื่อซึมชื้นใต้แผ่นหลังจนที่นอนเปียกเป็นวงกว้าง เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก มือทั้งสองที่สั่นระริกถูกยกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออก

แค่ความฝัน...?

ความมืดมิดยามค่ำคืนดึงให้เขากลับสู่ห้วงฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า...กลิ่นในวันนั้นยังคงติดอยู่ในความทรงจำแม้ฆานประสาทจะใช้การไม่ได้อีกต่อไป




ท่ามกลางบ้านหลังใหญ่ที่มีเพียงเสียงสายฝนกระทบหลังคามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ได้แต่นอนกอดตัวเองเอาไว้ให้คลายความหนาวเย็นพร้อมกับคำทวงถามที่จะไม่มีวันได้คำตอบ


พี่รอง...ที่ปืนขัดลำกล้องวันนั้นพี่จะไม่กลับมาหัวเราะเยาะข้าแล้วจริงหรือ...







TBC... 

No comments:

Post a Comment