Saturday 28 January 2017

[QZGS-SF] finding LanHe! (ออลหลาน :: all x หลานเหอ)

HAPPY BIRTH DAY to LAN HE!
[QZGS-SF] finding LanHe! (ออลหลาน :: all x หลานเหอ)

**ฟรีเปเปอร์ที่แจกในงานปาร์ตี้วันเกิดหลานเหอ ณ sit in 28/01/60**
***แต่จริงๆ หลานเหอเกิดวันที่ 14ธันวานะคะนะ ว่างตรงกันวันนี้เลยจัดงานวันนี้เฉยๆ 5555***


-1-

เสียงโทรศัพท์ตัดเข้าสู่ระบบรับฝากข้อความครั้งที่สามทำให้เหลียงอี้ชุนต้องกดตัดสายในที่สุด ชายหนุ่มจ้องหน้าจอซึ่งกำลังแสดงประวัติการโทรด้วยความรู้สึกกังวล รายชื่อสวี่ป๋อหย่วนโทรหาเขาเมื่อสามสิบนาทีก่อนสองสายแต่ด้วยความเคยชินที่ขณะเล่นเกมเขาจะปิดเสียงและเอามือถือไปวางไว้ไกลไม่ให้เสียสมาธิ การเรียกเข้านั้นจึงไม่ได้รับการตอบสนอง

อี้ชุนตัดใจไม่กดต่อสายอีกเป็นครั้งที่สี่ เขาคว่ำมือถือลงกับโต๊ะพลางครุ่นคิด อีกฝ่ายรู้นิสัยและตารางเวลาของเขาดีเกินกว่าที่จะไม่รู้ว่าตัวละครชุนอี้เหล่ากำลังออนไลน์ หากมีเรื่องด่วนในเวลาแบบนี้ป๋อหย่วนน่าจะสลับไอดีเข้าตัวละครหลานเฉียวชุนเสวี่ยเพื่อมาเรียกเขามากกว่าโทรศัพท์มา


...หรือมีปัญหาอะไรที่ทำให้ไม่สามารถปลีกตัวออกจากไอดีของเซิร์ฟเวอร์สิบได้เลย?


ชายหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักคว้าเอาไอดีการ์ดของเซิร์ฟเวอร์สิบที่เขายังเก็บเอาไว้ขึ้นมาเสียบเข้าเครื่อง

จริงอยู่ที่ป๋อหย่วนกับเขามักจะโทรศัพท์คุยกันในเรื่องส่วนตัวมากกว่า แต่ในสถานการณ์ซึ่งทางเซิร์ฟเวอร์สิบยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ก็เป็นไปได้ว่าทางนั้นจะมีปัญหาใหญ่โตขึ้นมาจริงๆ ...ยังไงนี่ก็เป็นช่วงพักเบรก แวะเข้าไปดูหน่อยก็แล้วกัน


เมื่อล็อกอินเข้าเกมได้ชายหนุ่มก็กดเข้าดูรายชื่อเพื่อนเป็นอย่างแรก ตัวละครหลานเหอแสดงว่ากำลังออนไลน์อยู่อย่างที่คิดแต่อีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบไม่ได้ทักมาเขาจึงส่งข้อความไปสั้นๆ


“อยู่ไหน”


ผ่านไปราวสิบนาที...ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับ จะว่ากำลังตีมอนหรือลงดัน...ฝีมือระดับหนึ่งในห้ายอดฝีมือของหลานซีเก๋อก็ควรจะขยับมือมาตอบได้ หรือจะว่ากำลังชิงสถิติก็ดูไม่น่าใช่

ตัวละครนักดาบคลั่งที่เขายืมมาใช้ครั้งล่าสุดล็อกเอาต์ไว้ที่นครจุลภาค เมื่อดินวนๆ หาไม่นานก็เจอสมาชิกกิลด์หลานซีเก๋อให้พอลากมาถามได้ว่าหัวกิลด์ของพวกเขาหายไปไหน

สมาชิกเหล่านั้นมองหน้ากันเองแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว...ช่วงนี้กิจกรรมต่างๆ ของหลานซีเก๋อเซิร์ฟเวอร์สิบซบเซาเหลือเกิน ตั้งแต่เรื่องสถิติดันเจี้ยนแผ่นดินเร่ร่อนสถานการณ์กิลด์ก็ยังอยู่ในภาวะแช่แข็ง ตอนนี้สมาชิกจึงว่างงานเสียยิ่งกว่าว่าง ได้แต่เก็บเวลฟาร์มไอเท็มวนๆ ไปรอเวลา

ยิ่งถามก็ยิ่งงุนงง ไม่มีใครรู้ว่าหัวกิลด์ตัวเองมีแผนทำอะไรอยู่ที่ไหนกันสักคน ชุนอี้เหล่ารู้สึกมืดแปดด้านอย่างประหลาด...เหมือนจู่ๆ หลานเหอก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไรอย่างนั้น


“เอ้อ แต่สักราวๆ ชั่วโมงก่อนผมเห็นหัวกิลด์วิ่งไปทางช่องเขาเส้นเดียว” ใครสักพูดขึ้นมา

“ไปกับใคร”

“ผมเห็นเขาแค่คนเดียว...เห็นแค่ด้านหลังผ่านๆ แต่ไม่น่าผิดคน”


ช่องเขาเส้นเดียว...หลานเหอเคยบอกว่าดันเจี้ยนช่องเขาเส้นเดียวมีสัญญาใจกับป้าชี่สยงถูไปแล้วนี่ ชุนอี้เหล่าบังคับตัวละครนักดาบคลั่งให้วิ่งออกไปทางนั้นทันที

ไอ้เซิร์ฟเวอร์สิบนี่มันชักจะมีเรื่องน่าสงสัยเยอะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง...หรือเขาจะคิดผิดจริงๆ ที่ส่งหลานเหอมาคนเดียว



-2-

ในขณะเดียวกันนั้นเชอเฉียนจื่อที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ห่างออกไปอีกเมืองหนึ่งก็กำลังกะพริบตามองข้อความจากระบบอย่างงุนงง ก่อนจะขยี้ตาตัวเองซ้ำๆ เพื่อเช็กว่าการมองเห็นยังเป็นปกติอยู่หรือไม่

...หลานเหอ...หลานเหอส่งข้อความหาเขาล่ะ!! หัวหน้ากิลด์จงเฉ่าถังเซิร์ฟเวอร์สิบโวยวายในใจแม้หน้าต่างจะแสดงข้อความเพียงแค่


หลานเหอ – เหล่าเชอ


จบ...ไม่มีอะไรต่อจากนั้นแม้แต่ตัวอักษรเดียว แต่แล้วใครจะทำไม ถึงจะแค่สองตัวอักษรแต่มันมาจากหลานเหอเขาจะอารมณ์ดีมันก็เรื่องของเขาไม่ใช่เรอะ เหอเหอเหอ

แต่การแจ้งเตือนของระบบก็แปลกๆ ในเมื่อข้อความแสดงเวลาเมื่อสามสิบนาทีก่อนแต่เขากลับเพิ่งมาเห็นตอนที่กดเช็กกล่องข้อความ จะว่ายุ่งวุ่นวายจนไม่ทันเห็นก็ไม่น่าใช่...ข้อความจากหลานเหอเลยนะ! เขาจะพลาดได้ยังไง มันต้องเป็นที่ระบบเพี้ยนๆ แน่ๆ !!!

ถึงจะติดใจอยู่บ้างแต่เชอเฉียนจื่อไม่รอช้าปัดความสงสัยทิ้งไปแล้วรัวความเร็วมือเป็นข้อความแสดงความรักด้วยการทับถมกิลด์หลานซีเก๋อเรื่องสถิติดันเจี้ยนแผ่นดินเร่ร่อนไปราวหนึ่งเรียงความจนอิ่มอกอิ่มใจแล้วก็นั่งยิ้มรอการตอบกลับอย่างดุเดือดของสหายหัวกิลด์เซิร์ฟเวอร์สิบ


...สิบนาทีผ่านไป...กับความนิ่งเงียบต่อเนื่อง


เฮ้ย...ชื่อหลานเหอก็ขึ้นว่าออนไลน์อยู่แท้ๆ ทำเมินข้อความกันหรือไงเนี่ย เชอเฉียนจื่อเริ่มจะนั่งไม่ติดที่เล็กน้อย ถึงอีกฝ่ายจะขี้โวยวายหรือชอบหัวเราะเสียงน่าเกลียดใส่แต่ก็ไม่เคยเมินเฉยไร้การตอบสนอง

หัวหน้ากิลด์จงเฉ่าถังแห่งเซิร์ฟเวอร์สิบชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งจึงพิมพ์สอบถามสถานการณ์ของหลานซีเก๋อตอนนี้ไปในช่องสื่อสารของสายข่าวในกิลด์ แต่ก็ได้ความไม่ค่อยต่างกับที่เขาคิดเท่าไรนัก...ผลกระทบจากเหตุการณ์สถิติดันเจี้ยนแผ่นดินเร่ร่อนยังคงกดให้หลานซีเก๋อก้มหน้าก้มตาเก็บเลเวลไปเรื่อยๆ อย่างเดียว

น่าแปลก...


“แต่ถ้านายจะถามถึงหลานเหอ ชั่วโมงก่อนฉันเห็นหมอนั่นอยู่แถวๆ ป่าเพียงรู้นะ”


เชอเฉียนจื่อพิมพ์ขอบคุณลงไปขณะที่ในหัวยังมึนงง...สถานที่แบบนั้นเหล่าหลานจะไปทำอะไร ถ้าเขาจำไม่ผิดเควสพื้นฐานตามเลเวลที่จำเป็นต้องทำอีกฝ่ายก็เก็บครบหมดแล้วนี่

นั่นปะไร สงสัยไปก็เท่านั้น คิดหรือว่าไม่ตอบแชตแล้วเขาคนนี้จะยอมแพ้ คิดพลางขยับมือบังคับตัวละครผู้ฝึกมนตราให้ออกวิ่งในทันที

เรื่องตามติดตามวอแวหลานเหอน่ะ...คนที่เชี่ยวชาญกว่าเชอเฉียนจื่อคนนี้ไม่มีอีกแล้ว ขอเดิมพันด้วยไม้แขวนเสื้อหน้าตู้และอะคริลิกบนโต๊ะคอมเลยเอ้า!!



-3-

วันนี้เยี่ยซิวตื่นนอนเร็วอย่างน่าประหลาด วิถีชีวิตแบบนกฮูกทำให้เฉินกั่วไม่ค่อยเจอชายหนุ่มในเวลาช่วงบ่ายแบบนี้ ท่าทางง่วงงุนเดินลงมาถึงคว้าอะไรที่กินได้เข้ามือปุ๊บก็คาบบุหรี่เดินไปนั่งหน้าคอมทันทีทำเอาหญิงสาวรู้สึกความดันจะขึ้น


"อีตานี่ใช้กลอรี่หายใจแทนอากาศหรือไงเนี่ย"


เธอบ่นอุบก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะคิกดังมาจากหลังเคาน์เตอร์ ถังโหรวนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้หันมาแต่เจ้าของร้านสาวก็เห็นไหล่ที่กำลังสั่นนิดๆ ...นี่ก็อีกคน เฉินกั่วยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะตัดสินใจเดินอ้อมไปด้านหลังชายหนุ่ม เพื่อดุสักทีเรื่องทำเสี่ยวถังของเธอใจแตก แต่สิ่งที่หน้าจอแสดงกลับดึงความสนใจไปได้โดยง่าย


หลานเหอ - ท่านเทพครับ


เห...หลานเหอนี่มันไม่ใช่ว่าคือเจ้าของไอดีหนึ่งในห้ายอดฝีมือของกิลด์หลานซีเก๋อ 'หลานเฉียวชุนเสวี่ย' หรอกหรือ ถึงเฉินกั่วจะไม่ได้ร่วมวงเล่นด้วยในเซิร์ฟเวอร์สิบแต่ด้วยความสนิทกับถังโหรวเธอจึงได้รับข้อมูลทั่วไปมาบ้าง ถ้าไม่ติดว่าถังโหรวไม่ค่อยสนใจข่าวสังคมเธอคงไม่พลาดเรื่องแบบนี้แน่ๆ


"นี่นายสนิทกับหัวกิลด์ของหลานซีเก๋อด้วยเหรอ" ว่าแล้วเรดาห์ก็เริ่มทำงานทันที

"อืม..."


คำตอบรับแบบขอไปทีทำเอาหญิงสาวยืนแยกเขี้ยวอยู่ด้านหลัง แต่พอไม่ได้รับความสนใจเข้าจริงๆ เจ้าของร้านสาวก็เปลี่ยนเป้าหมาย เดินฉับๆ กลับไปหาสายข่าวเจ้าประจำของเธอ


"นี่ๆ หมอนั่นสนิทกับหัวกิลด์หลานซีเก๋อด้วยเหรอ" เฉินกั่วสะกิดถามยิกๆ ก่อนจะอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นสีหน้างุนงง "ไอดีหลานเหอไง"


ถังโหรวกะพริบตาทวนความจำสองทีถึงนึกออก ตัวละครจอมยุทธ์ดาบของกิลด์ที่โลโก้เป็นสีฟ้าสินะ...


"ก็สนิท"

"ระดับไหน?"

"อืม..." หญิงสาวหรี่ตาทบทวนความจำ ในขณะที่มือก็ยังขยับบังคับตัวละครหานเยียนโหรวในหน้าจอต่อ


เยี่ยซิวเป็นคนมีฝีมือและมาตรฐานสูง เรื่องนี้ถังโหรวรู้ดีกว่าใคร ดังนั้นเมื่อหลายวันที่เห็นจวินม่อเซี่ยวกล่าวถึงหลานเหอต่อหน้าพวกทีมหลานซีเก๋อในแง่ชื่นชมพร้อมกับเหยียบย่ำ...ที่ชื่ออะไรแล้วนะ คนพูดมากของหลานซีเก๋อคนนั้น...เธอถึงแปลกใจ ชายหนุ่มชมคนไม่ง่าย หากชมแล้วย่อมหมายความตามนั้นจริงๆ

แล้วยังเหตุการณ์รุมฆาตกรรมหมู่ที่ช่องเขาเส้นเดียวอีก...เธอเองก็ไม่รู้ว่าระหว่างคนที่ชื่อหลานเหอกับเยี่ยซิวมีอะไรกัน แต่ไอ้อาการเห็นหน้าแล้วโล่งอก โบกมือเซย์ไฮสบายอารมณ์กับคนอื่นแบบนั้นเธอเองก็เห็นไม่บ่อย

อืม...


"ก็พิเศษกว่าคนอื่น" ในมาตรฐานแข็งกระด้างของผู้หญิงที่ชื่อถังโหรว


ว่าจบก็กลับมาตั้งใจเล่นเกมต่อ บังคับหานเยียนโหรวให้วิ่งผ่านพื้นที่รกร้างซึ่งไม่เหมาะกับการเก็บเลเวลไปทันที เฉินกั่วที่ยืนอยู่ข้างหลังจะหวีดร้องเสียงเบาเอามือทุบๆ พนักเก้าอี้ทำไมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่พอขยับเมาส์ไปอีกสักพักเธอก็ต้องเป็นฝ่ายร้องอุทานออกมาเอง

ร่างหนึ่งที่คุ้นตาวิ่งผ่านหน้าจอไปพร้อมกับปลายผมสีฟ้าซึ่งถูกรวบเป็นหางม้า หญิงสาวกวาดตามองตัวอักษรสองตัวเหนือศีรษะตัวละครนั้นอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันความเข้าใจของตน

...นั่นมันหลานเหอนี่



-4-

ชุนอี้เหล่าบังคับตัวละครนักดาบคลั่งเลเวลสามสิบมุ่งเข้าสู่แม็พช่องเขาเส้นเดียวอย่างรวดเร็ว เวลาแบบนี้ไม่ใช่ช่วงที่เหมาะกับการลงดันทำให้ช่องเขาดูเวิ้งว้างปราศจากผู้คนอย่างแท้จริง ชายหนุ่มจึงสลับหน้าจอไปเสิร์ชหาแผนที่ของช่องเขามาศึกษา

ถ้าหลานเหอมาที่นี่คนเดียวย่อมไม่ใช่การลงดัน ดังนั้นเจ้าตัวก็น่าจะอยู่ในซอกเขาแถวนี้สักซอกนึง แม้ยังนึกเหตุผลไม่ออกแต่ชุนอี้เหล่าก็วางแผนคร่าวๆ ในหัวแล้วค่อยออกตามหาอย่างใจเย็น

ชายหนุ่มใช้เวลาวิ่งวนไปมาอยู่ไม่นานก็เห็นตัวละครหนึ่งยืนนิ่งอยู่บนเส้นทางเล็กๆ ในช่องเขา...ตัวละครจอมยุทธ์ดาบผมยาวรวบเป็นหางม้า เห็นแค่ด้านหลังเขาก็มั่นใจว่านี่คือคนที่กำลังตามหา


“หลานเฉียว”


เขาเรียกออกไปแต่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนนิ่งไร้การตอบสนอง ชุนอี้เหล่ารู้สึกงุนงงหนักขึ้นไปอีกเมื่อเดินอ้อมไปด้านหน้าแล้วตัวละครหลานเหอก็ยังคงแข็งทื่อเป็นหิน


“ป๋อหย่วน...อาหย่วน?”


นิ่งเงียบ...นี่ป๋อหย่วนเลินเล่อขนาดล็อกอินตัวละครทิ้งเอาไว้กลางแม็พเลยหรือ? เกิดถูกฆ่าตายแล้วเครื่องสวมใส่ดรอปจะทำยังไง ถ้ากลับมาจะต้องอบรมหน่อยแล้ว หัวหน้ากิลด์ใหญ่ของหลานซีเก๋อคาดโทษเอาไว้เงียบๆ ขณะที่ใช้ตัวละครปักหลักเฝ้าเอาไว้

ว่าแล้วเหลียงอี้ชุนก็เอะใจแปลกๆ เขาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูก็ยังไม่มีการเรียกสายเข้าครั้งใหม่ แถมพอลองกดโทรหาเบอร์เดิมก็ยังเป็นบริการรับฝากข้อความ

ป๋อหย่วนไม่อยู่ในเกม...แต่ก็ติดต่อไม่ได้ นี่มันเรื่องอะไรกัน?


แต่ก่อนที่ความเป็นห่วงจะลากจินตนาการเรื่องเลวร้ายของชายหนุ่มไหลไปไกลก็มีเสียงฝีเท้าพร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวายดังแว่วมา เขาจึงรีบบังคับให้ตัวละครนักดาบคลั่งอยู่ในท่าเตรียมพร้อมรับมือกับผู้มาเยือนทันที


“หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้นะเหล่าหลาน!!”


หา...?


เสียงนั้นนำมาก่อนจากระยะไกลก่อนที่ตัวละครหนึ่งจะโผล่มาจากทางเลี้ยวช่องเขา...ตัวละครจอมยุทธ์ดาบผมยาวรวบหางม้าพร้อมหน้าตาที่เขาคุ้นเคยอย่างดี

นั่นมันหลานเหอ...แต่ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังเขามันก็หลานเหอไม่ใช่เรอะ!?



-5-

เชอเฉียนจื่อนึกเข้าใจสงครามประสาทระหว่างท่านเทพของเขากับหวงเส้าเทียนของหลานอวี่มากขึ้นทุกที คนหนึ่งก็พล่ามพรรณนาน้ำไหลไฟดับ อีกคนก็ทำหูทวนลมเมินถ้อยคำขยะไปรัวๆ นี่มันคือการแข่งขันความแข็งแกร่งด้านจิตประสาทอย่างแท้จริง

ซึ่งสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้...ก็คือการลอกเลียนวิทยายุทธของท่านอริยดาบอย่างอเนจอนาถเป็นที่สุด


“เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน เหล่าหลาน”


หนึ่งตัวละครจอมยุทธ์ดาบกับหนึ่งตัวละครผู้ฝึกมนตรากำลังวิ่งไล่กันไปด้วยความเร็วเท่ากันยังไงก็ตามไม่ทันสักที แถมอีกฝ่ายยังเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไม่หันมาชายตามองกันสักนิดเชอเฉียนจื่อจะรัวบับเบิ้ลข้อความไปฝั่งนั้นก็ไม่มีทางเห็น เขาจึงได้แต่ตะโกนโหวกเหวกเลียนแบบไอดอลของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ

หลังจากตัดสินใจว่าจะไปตามหาตามเบาะแสที่ป่าเพียงรู้ วิ่งไปยังไม่ถึงชายป่าดีก็เจออีกฝ่ายวิ่งสวนทางไปยังทิศของช่องเขาเส้นเดียว เชอเฉียนจื่อยังงุนงงกับสถานการณ์นี้แต่ก็บังคับให้ตัวเองวิ่งไปด้วยสัญชาตญาณ แม้เขาจะนึกเหตุผลที่โดนอีกฝ่ายปั้นปึ่งใส่ขนาดนี้ไม่ออกเลยก็ตาม


“นายจะรีบไปไหนฟระ!? จะลงดันอะไรเอาป่านนี้ นายใช้จำนวนครั้งวันนี้หมดแล้วไม่ใช่เรอะ อย่ามาหลอกฉันเสียให้ยาก นายก็ต้องรอรีเซ็ตตอนเที่ยงคืนใช่มั้ยล่ะเหล่าหลาน”


ปากก็โวยวายไปมือก็ขยับไป เชอเฉียนจื่อทุ่มเทพลังกายใจอย่างเต็มที่ไล่ตามหลานเหอ จากชายป่าเพียงรู้ผ่านกังหันลมเก่าเข้าสู่หนึ่งในเส้นทางสลับซับซ้อนของช่องเขาเส้นเดียว

หลานเหอวิ่งเลี้ยวไปมาในช่องเขาสลับซับซ้อนอย่างคล่องแคล่วราวกับกำหนดเส้นทางไว้อย่างดีแล้ว แต่เส้นทางพวกนี้จะเชื่อมไปเชื่อมมาอย่างไรสุดท้ายมันก็ไปได้แค่สองทางก็คือประตูดันกับทางออกไม่ใช่หรือ

เชอเฉียนจื่อยังคงตั้งหน้าตั้งตาโวยวายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นคนสองคนอยู่ในทางเดินช่องเขา


ตัวละครนักดาบคลั่ง...กับจอมยุทธ์ดาบที่หน้าตาเหมือนกับคนที่เขากำลังวิ่งไล่ตามอย่างกับแกะ

หลานเหอสองคน...???


ว่าแล้วตัวละครหลานเหอก็หยุดวิ่งยืนนิ่งประจันหน้ากับหลานเหอคนที่ยืนอยู่ก่อน เชอเฉียนจื่อเห็นถึงตรงนี้ก็มึนงงจนนึกคำพูดอะไรต่อไม่ออกแล้ว


“...เอ่อ” นักดาบคลั่งที่อยู่ตรงนั้นก็มีติดสตันไม่แตกต่าง “เชอเฉียนจื่อ? จงเฉ่าถัง?”

“คุณ...?” คนถูกเรียกก็พลันคิดขึ้นได้ว่าผู้เล่นทั่วไปย่อมไม่เรียกเขาเช่นนี้ ดูจากตัวละครนักดาบคลั่งพร้อมออปชั่นตามติดกางปีกเฝ้าหลานเหอแบบนี้มันจะเป็นใครไปไม่ได้แน่ๆ นอกจากท่านหัวกิลด์ใหญ่ของหลานซีเก๋อ


เชอเฉียนจื่อเป็นใบ้หนักข้อ เดิมสถานการณ์ที่มีหลานเหอสองคนยืนนิ่งจ้องหน้ากันไม่พูดอะไรก็แย่แล้ว นี่ยังจะมาเจอรุ่นใหญ่ของกิลด์ชาวบ้านมายืนงงเป็นเพื่อนอีก...เออดีๆ ไว้ถ้าได้นักกีฬาอาชีพอีกสักคนมายืนงงด้วยซีนนี้คงเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

คิดแล้วก็ได้แต่หัวเราะฝืดเฝือในใจ และยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อก็มีเสียงฝีเท้าดังตามมาจากอีกฝั่งทางเดิน เชอเฉียนจื่อและชุนอี้เหล่าหันขวับไปทันทีตามเสียงก่อนที่จะจ้องหน้าจอตาแทบถลนกับผู้มาเยือนคนใหม่


จอมยุทธ์ดาบผมยาวสีฟ้ารวบหางม้า

หลานเหอ...คนที่สาม



-6-

สถานการณ์ในร้านอินเตอร์เน็ตซิงซินขณะนี้ก็ไม่ต่างกับที่หน้าจอของเชอเฉียนจือและชุนอี้เหล่านัก เฉินกั่วยืนปักหลักอยู่หลังเก้าอี้เยี่ยซิวสังเกตอย่างใกล้ชิด ไม่เว้นแม้แต่ถังโหรวที่ถูกลูกค้าเรียกจนต้องปิดเครื่องตัวเองไปทำงานก่อนก็ยังอดเหลือบสายตามามองบ่อยๆ อย่างสนใจไม่ได้

เมื่อครู่นี้ตัวละครหลานเหอวิ่งผ่านหน้าเธอไปไประยะหนึ่งก็หยุดกึก แล้วยืนนิ่งอยู่เฉยๆ ถังโหรวบังคับหานเยียนโหรวเข้าไปทักทายตามคำบัญชาของเจ้าของร้านแล้วก็พบว่าอีกฝ่ายไร้การตอบสนองเหมือนคนลืมล็อกเอาต์

...น่าแปลก หลานเหอไม่ใช่ผู้เล่นใหม่ เรื่องสะเพร่าเช่นนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้


เยี่ยซิวตะโกนมาถามพิกัด ถังโหรวก็บอกไปก่อนจะกดล็อกเอาต์เองเนื่องจากต้องเดินไปส่งเปปซี่ ภายหลังที่เดินผ่านจึงได้เห็นว่าจวินม่อเซี่ยวกำลังวิ่งไล่ตามหลานเหออยู่


“เขาจะหนีทำไม”

“ไม่ใช่หนีหรอก” เยี่ยซิวตอบเสียงอู้อี้เพราะบุหรี่ที่คาอยู่ตรงมุมปาก “วันนี้การบังคับของหมอนี่แปลกๆ”

“คุณจะตามเขาไปหรือ”


คำถามนี้ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่มือก็ขยับไปตามนั้น แล้วถังโหรวก็ละสายตาเงยขึ้นมองเฉินกั่วที่ยืนอยู่ด้านหลังอมยิ้มทำปากขมุบขมิบแล้วก็ได้แต่รู้สึกเหนื่อยใจ...ทำไมคนเหล่านี้ถึงไม่ทำตัวให้เข้าใจง่ายๆ กันหน่อยนะ


จวินม่อเซี่ยวไล่ตามหลานเหอจากบริเวณทางแยกของแผ่นดินเร่ร่อนกับช่องเขาเส้นเดียวเข้าสู่แม็พทางขวาอย่างรวดเร็ว ตอนแรกตัวละครหลานเหอยืนนิ่งอยู่แต่บทจะขยับก็เอาแต่วิ่งอย่างเดียวไม่สนทนากับใคร ดีที่เขาตามมาทันจึงยังพอรักษาระยะห่างเอาไว้ได้

เยี่ยซิวยังพอจำเส้นทางที่เคยเสิร์ชดูตอนมาลอบสังหารหมู่ชาวบ้านได้ เขาวิ่งลัดเลาะตามหลานเหอไปก็ได้แต่สงสัยว่าเจ้าตัวจะไปไหน แต่พอเห็นกลุ่มคนยืนอยู่ในทางเดินแคบความเขาก็นึกเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาบางส่วน นักดาบคลั่งคนนั้นเคยแนะนำตัวกับเขาว่าคือ ชุนอี้เหล่าจากหลานซีเก๋อ ส่วนอีกคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะลูกค้ารายใหญ่ เชอเฉียนจื่อจากจงเฉ่าถัง


และหลานเหอคนที่สาม...

ที่มาพร้อมกับจวินม่อเซี่ยว


สถานการณ์ตอนนี้มันประหลาดล้ำเกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยตรรกะปกติแล้ว ทุกคนในที่นั้นล้วนจนด้วยคำพูด ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเลือกสงสัยอะไรก่อนเป็นเรื่องแรก


หลานเหอสามคน...จริงๆ ก็ดีนะ...

นั่นคือสิ่งที่ทุกคนตรงนั้นคิดตรงกันเป็นอย่างแรกแต่ก็พร้อมใจเหยียบเอาไว้ให้แน่น


แต่แล้วตัวละครหลานเหอทั้งสามก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง กราฟฟิกบิดเบี้ยวเสมือนบั๊กของการแสดงผลปรากฏขึ้นโดยรอบ และในชั่วพริบตาตัวละครหลานเหอทั้งสามก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน


“อาหย่วน/เหล่าหลาน/หลานอา”


สามเสียงเรียกประสานทันทีพร้อมกับสายตาไม่เป็นมิตรที่ตวัดกลับมาจ้องหน้ากันและกัน แต่บรรยากาศมาคุนั้นก็ถูกทำลายด้วยเสียงที่ทุกคนหวังจะได้ยินมานาน


“อ้ากกกก หายสักที!!!”



-7-

หลานเหอโวยวายโหวกเหวกอีกหลายคำก่อนจะสงบสติอารมณ์มานั่งเล่าเหตุการณ์แบบช็อตต่อช็อตได้ เรื่องของเรื่องมันเริ่มจากที่เขากำลังเล่นเกมตามปกติแล้วจู่ๆ ภาพหน้าจอก็รวน แผงควบคุมทั้งหมดหายออกไปจากการแสดงผล รวมถึงเสียงพูดคุยและบับเบิ้ลข้อความก็หายไปหมด เหลือแต่กล่องข้อความว่างเปล่าและมุมมองของตัวละคร

แต่ที่แย่ที่สุดมันไม่ใช่ตรงนั้น...ที่แย่ที่สุดคือระบบได้ทำการแยกร่างตัวละครจอมยุทธ์ดาบของเขาเป็นสามคน คนหนึ่งอยู่ที่เดิม อีกคนไปโผล่ที่ป่าเพียงรู้ อีกคนไปโผล่ที่แผ่นดินเร่ร่อน

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับหน้าจอที่ปกติแสดงผลได้แค่หนึ่งไอดี...


“หมายความว่าจู่ๆ หน้าจอก็ตัดสลับย้ายไปมาระหว่างตัวละครทั้งสามอย่างงั้นเหรอ” ชุนอี้เหล่าถามขณะที่พยายามย่อยข้อมูล

“ประมาณนั้น...ผมเสียวแทบตาย เพราะมันก็เหมือนล็อกอินทิ้งไว้กลางแม็พ ขืนตายกลับนครจุลภาคนี่จะยากกว่าเดิมอีก แถมจะล็อกเอาต์ก็ไม่กล้ากลัวข้อมูลมีปัญหา”

“แล้วนายรู้ได้ไงว่าเอาตัวละครมารวมๆ กันแล้วมันจะหาย” คำถามนี้เป็นของเชอเฉียนจื่อ

“จะไปรู้ได้ยังไงเล่า แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ยืนเคว้งๆ รอใครไม่รู้มาตบกลับจุดเซฟไหมล่ะ” หลานเหอถอนหายใจ ก่อนหันขวับไปมองเจ้าของคำถาม “เฮ้ย ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนาย หึ จงเฉ่าถังจะพูดอะไรก็พูดได้สินะ ได้ยินเหมือนเพิ่งโดนท่านเทพเหยียบจมดินมาไม่ใช่หรือ”

“แล้วทางหลานซีเก๋อไม่ยิ่งจมดินกว่าหรือไง โอ๋ๆ ไม่ร้องนะเสี่ยวหลาน สถิติแตกเละเทะ PKก็หมดรูป จมจนหาที่ขุดไม่เจอแล้วมั้ง”


หลานเหอรู้สึกความดันขึ้นทันทีพร้อมจะอ้าปากสวมวิญญาณอริยดาบพ่นกลับไปบ้าง แต่แล้วก็มีเสียงกระแอมเบาๆ ดังขึ้น

ชุนอี้เหล่าและเยี่ยซิวยืนมองหัวกิลด์เซิร์ฟเวอร์สิบสองคนเถียงกันด้วยสายตาว่างเปล่า ถึงตรงนี้เด็กหนุ่มก็นึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองแล้วพุ่งเข้าไปขย้ำคอเชอเฉียนจื่อมากมายมหาศาล


อ้ากกกกกกกกกกก มาชวนเขาตีกันเป็นเด็กๆ ต่อหน้าหัวหน้ากับท่านเทพแบบนี้ได้ยังไง ไอ้บ้าเชอเฉียนจื่อ!!


หลานเหอหวีดร้องในใจก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นท่าทางสงบเสงี่ยม


“ว่าแต่ คุณส่งข้อความหาฉันทำไม” จวินม่อเซี่ยวที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นในที่สุด

“ผมคิดว่าบั๊กแบบนี้อาจจะเคยมีมาก่อนเลยจะลองถามคนที่เล่นเกมมานานดู แต่ผมนึกว่าข้อความส่งไม่ผ่านเสียอีก” พอหันคุยกับจวินม่อเซี่ยว ทั้งน้ำเสียงและสำเนียงก็สุภาพเรียบร้อยขึ้นถนัดหู

“อืม...ก็เลยมาถามฉันก่อนสินะ”

“เฮ้ คุณแน่ใจได้ไงว่าเหล่าหลานถามคุณก่อน” หัวหน้ากิลด์จงเฉ่าถังของเซิร์ฟเวอร์สิบแทรกขึ้น โดยปกติเขาคงไม่อาจหาญเถียงมหาเทพเยี่ยชิวคนนี้...แต่นี่มันกรณีพิเศษ เรื่องที่เกี่ยวกับหลานเหอน่ะเขาไม่ยอมหรอก!

“แล้วถ้าถามคุณ คุณจะมีคำตอบที่ดีให้หลานเหอไหม” จวินม่อเซี่ยวถามกลับไปเนิบๆ


เชอเฉียนจื่ออ้าปากค้างคิดคำโต้เถียงไม่ออก แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นอย่างเรียบง่าย


“มือถือเป็นอะไรหรือเปล่าป๋อหย่วน ฉันโทรกลับไปไม่ติด” ชุนอี้เหล่าพูดเนิบนาบแต่ช่างแฝงไปด้วยความเยาะเย้ยในความรู้สึกคนฟังอีกสองคน

“อ๊า ผมซุ่มซ่ามทำน้ำหกใส่ ตอนนี้เลยผึ่งลมไว้ยังไม่กล้าเปิดเครื่องเลย”

“ไม่เป็นไร ไว้วันเสาร์ค่อยเอาไปซ่อมกัน” ว่าจบก็เหลือบสายตากลับมามองอีกสองคนนิ่ง จวินม่อเซี่ยวหัวเราะในลำคอ

“มีมือถือแท้ๆ แต่ไม่รับสาย น่าเสียดายๆ ดูพึ่งพาได้ยากหน่อยนะ” ชุนอี้เหล่าได้ยินดังนั้นก็หน้าตึงในทันทีแต่ก็คิดคำโต้ตอบไม่ออก ได้แต่กัดฟันแน่นอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เหอะๆ เอางี้ดีกว่า เหล่าหลาน! ตอนเกิดเรื่องนายติดต่อใครเป็นคนแรก!?”


เชอเฉียนจื่อถามโพล่งขึ้นมากลางวง ดวงตาทั้งสามคู่จ้องมองกันเหมือนมีประกายไฟแล่นแปลบปลาบ หลานเหอกะพริบตามองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างมึนงง


“ว่าไง”

“นั่นสิ คุณติดต่อใครเป็นคนแรก”


เด็กหนุ่มกวาดตามองทั้งสามคนที่ทำท่าเหมือนจะเริ่มPKมันตรงนี้ได้ทุกวินาทีอย่างลำบากใจก่อนจะค่อยๆ เลื่อนสายตาเลยไปยังทางช่องเขาด้านหลังแล้วเฉลยชื่อบุคคลที่เขาคิดถึงเป็นคนแรกเสมอในยามมีเรื่อง


“ซี่โจว”


...


ตัวละครนักบวชหนุ่มยืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เมื่อไรทำไมพวกเขาถึงเพิ่งรับรู้...ซี่โจวก้มศีรษะเล็กน้อยทักทายทุกคนที่หันขวับไปมองตามสายตาของหลานเหอ สีหน้าเรียบเฉยนั้นไม่มีท่าทียินดียินร้ายกับคำตอบแม้แต่น้อย


“ง่า...ก็หมอนี่อยู่กับผมตลอด อะไรๆ ผมก็เรียกซี่โจวจนชินแล้ว เมื่อกี้ผมยังฝากเขาไปเมลถามหน่วยรับแจ้งของบริษัทกลอรี่อยู่เลย” หลานเหออธิบายอุบอิบ “อ๊ะ แล้วซี่โจวฉลาดมาก ผมมองไม่เห็นบับเบิ้ลข้อความและไม่ได้ยินเสียง ซี่โจวเลยเอาอาวุธเขียนเป็นข้อความคุยกันบนพื้นแทน จริงๆ ก็ซี่โจวนี่แหละที่บอกให้ผมลองปรึกษาพวกคุณดู”


พอจบคำอธิบายนั้นก็เป็นจังหวะเงียบกริบอันเนิ่นนาน บรรยากาศอาฆาตเมื่อครู่ปลิวหายวับไปเหลือแต่ความเปล่าเช่นเดียวกับสายตาที่เหม่อมองฟ้า


“ฉัน...กลับไอดีหลักก่อน” ชุนอี้เหล่าทำลายความเงียบเป็นคนแรก

“ฉันเองก็ไปนอนต่อดีกว่า” ตามด้วยจวินม่อเซี่ยวที่ล็อกเอาต์ตามกันไปติดๆ


เหลือแต่เชอเฉียนจื่อที่ยังคงมีสีหน้าว่างเปล่า สักพักก็หันหลังและเดินจากไปไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลานเหอเห็นดังนั้นก็งุนงงหนักข้อ หันกลับไปหาที่พึ่งตลอดกาลข้างตัวอย่างที่ทำมาตลอด


“ซี่โจววววววววววววว ทุกคนเป็นอะไรกันหมด?! ฉันทำอะไรผิดเรอะ? โฮโฮโฮ”


ตัวละครนักบวชหนุ่มมองเพื่อนตัวเองโวยวายคร่ำครวญต่อด้วยสายตาเหมือนเดิม เขาพิมพ์ปลอบไปตามพิธีพร้อมกับความคิดหนึ่งดังขึ้นมาชัดเจนในใจ


...ใครก็ได้เอาไอ้พวกบ้านี่ออกไปจากชีวิตตูที...


//จบเถอะ//



TALK

สวัสดีค่า //ไหว้ย่อรอบทิศ
ฟิคนี้เป็นฟิคเฉพาะกิจงานวันเกิดหลานเหอ(แบบเลทๆ) เริ่มต้นเลยก็ไม่มีอะไรมากนอกจากอยากลองเขียนทุกคนอยู่ในซีนเดียวกัน 5555555555555555 ยาก...มาก... //อ้วกเลือด// แต่ชอบจัง การมองตาขวางพูดจาทับถมกันไปมา 55555555 แล้วก็อยากเขียนรีแอคชั่นของหลานเหอที่มีต่อแต่ละคนซึ่งมันไม่เหมือนกันอ้ะ โมเอะจังเลย ฮิฮิฮิ ///////////////
ว่าแต่สุดท้ายเรื่องนี้ซี่โจวเข้าวินสินะ--- แง เรืออเนกประสงค์ ซี่โจวสำนักเวลเวลมีบทแค่ไม่มีกี่ย่อหน้าสุดท้ายแต่แย่งซีนเสมอ 55555555555555 ฮือ แต่ชอบการที่เอะอะอะไรหลานเหอก็โวยวายปรึกษาปรับทุกข์กับซี่โจว พี่จะต้องมองอ่อนน้องและบรรดาหลานเหอเอฟซีแน่ๆ ถถถถถถถถถถ
สุดท้ายนี้ง่วงนอนมากๆ ทอล์กไม่ไหวแบ้ว คร่อก... หวังว่าจะถูกใจกับออลหลานของเรานะคะ ขอบคุณค่า

1 comment:

  1. ซะ...ซี่โจวได้เข้าวินด้วยแหละ! ซี่โจวได้เข้าวินด้วย!!! 55555555

    เกลียดความบาทาท่องเงาของซี่โจวจัง ยืนไร้บทอยู่นานมาก คงมองเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยสายตาแบลงก์ๆ

    เชอเฉียนจื่อสตอล์กเกอร์!!!! รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหลานเหอ แต่สุดท้ายเป็นราชานกคืออะไรรร โมเอะะะะะะะ

    พี่ชุนนี่สามีแห่งชาติอีกละ เลี้ยงดูปกป้องอย่างดี ฮือ แมนๆ ปักหลักดูแลตัวละครที่ยืนนิ่ง โง้ย คนดี

    พี่เยี่ย อืม คือพี่เยี่ย 5555555 รักความแจกสกรีนไทม์ให้สาวๆ เน็ตคาเฟ่ เจ๊สายเผือก 555

    ขอบคุณสำหรับออลหลานที่ดี และมีซี่หลานที่เข้าวิน(?)ซะทีนะ 55555555

    ตลกมากแง ตอนอ่านเราขำลั่น 5555555 งานก็สนุก ไว้เรามาจัดกันอีกนะ /กราบไหว้แม่งาน

    ReplyDelete